บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ Healthy is a Trend

Superfoods อาหารลดน้ำหนัก

รูปภาพ
Superfoods คือชื่อเรียกของ อาหาร ที่มีคุณประโยชน์สูง มีปริมาณสารอาหารอยู่มาก ช่วยบำรุงร่างกาย ไม่ว่าจะสร้างมวลกระดูก ป้องกันโรคเรื้อรัง ช่วยในการมองเห็น แต่อีกหนึ่งคุณสมบัติที่น่าสนใจ นั่นก็คือ Superfoods สามารถช่วย ลดน้ำหนัก และรักษาหุ่นได้ด้วย มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้างและควรทานในปริมาณเท่าไหร่ ถึงจะเหมาะสม ควินัว   (Quinoa)  หนึ่งในอาหารที่มีโปรตีนและคุณค่าทางอาหารสูง จนได้ชื่อว่า  Superfoods  ลำดับต้นๆ หน้าตาเป็นเม็ดเล็กๆ สามารถนำมาทานแทนข้าวได้ ถั่วดำ   ( Black bean)   ถั่วดำ 1 ถ้วยประมาณ 15 กรัม ก็ให้ปริมาณโปรตีนที่เพียงพอแล้ว ที่สำคัญไม่มีไขมันอิ่มตัวอย่างในแหล่งอาหารโปรตีนอื่นๆ อย่างเช่นจำพวกเนื้อ ถั่วแดง   ( Red bean)   อีกหนึ่งประเภทถั่วที่มีโปรตีนและไฟเบอร์สูง หาทานง่าย รสชาติดี ถั่วอัลมอนด์   ( Almond)   หากคุณเป็นคนชอบกินของขบเคี้ยว แนะนำให้ลองเปลี่ยนจากการกินพวกขนมปังกรอบมาเป็นอัลมอนด์ จะช่วยรักษาหุ่นได้มากกว่า ถั่วเลนทิล   (Lentils) แหล่งโปรตีนและไฟเบอร์ชั้นเยี่ยม ถั่วเลนเทิลครึ่งถ้วยมีปริมาณแป้งทนการย่อย 3.4 กรัม ถั่วลูกไก่  (Garbanzo beans) มีปร

ฝุ่น pm 2.5 คืออะไร?

รูปภาพ
ฝุ่น PM 2.5 คืออะไร ช่วงหลายวันที่ผ่านมา  ฝุ่น PM 2.5  กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง หลังจากที่เคยเป็นกระแสในช่วงต้นปี 2018 แต่จริงๆ  ฝุ่น PM 2.5 มีมานานแล้ว และยังคงมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยดูจากสถิติในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ฝุ่น PM2.5 คือ ฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือเทียบแล้วเล็กกว่า 3% ของเส้นผ่านศูนย์กลางเส้นผมของมนุษย์ ฝุ่นขนาดเล็กจิ๋วนี้ เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุรวมกัน อาทิเช่น การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ การก่อสร้าง ซึ่งเป็น 2 สาเหตุหลักของมลพิษทางอากาศในเมืองใหญ่ ฝุ่น PM2.5 เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะสามารถเดินทางผ่านทางเดินหายใจสู่ปอดและกระแสเลือดได้ง่าย เพิ่มโอกาสของโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ และต้องป้องกันด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานป้องกันฝุ่นขนาดเล็กโดยเฉพาะ ผลกระทบฝุ่น PM 2.5 ผลกระทบต่างๆ ที่ร่างกายจะได้รับเมื่อหายใจเข้ารับฝุ่นละออง PM2.5 เข้าไป อาจจะไม่ได้ส่งผลได้ทันตาเห็นทันที แต่ก่อให้เกิดเป็นโรคต่างๆ ตามมาได้อย่างไม่คาดคิดเลยทีเดียว ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูกันเลย ระคายเคือง/แสบจมูก  ในเบื้องต้นเมื่อเราหายใจเข้าไป ร่างก

วันเด็ก 2562 ต้องระวังโรคระบาด

รูปภาพ
Epidemics in children ใกล้จะถึงวันเด็กแล้วสำหรับ ในเดือนมกราคมนี้ และแน่นอนว่าผู้ปกครองหลายๆท่าน คงจะพาลูกหลานของท่าน ไปร่วมงานวันเด็กที่จะจัดขึ้นในวันที่ 12 มกราคม 2562 นี้ซึ่งแน่นอนว่า ในงานมีผู้คนมากมาย และเด็กๆที่ยังมีภูมิต้านทานต่ำ ทำให้สามารถอาจติดเชื้อโรค จากสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน วันนี้เราจึงมานำเสนอ " โรคระบาดหรือโรคติดต่อง่ายสำหรับเด็ก " และวิธีรับมือกับโรคต่างๆ ไข้หวัดใหญ่ เพราะอากาศที่เย็นลงและความชื้นจะทำให้โรคในกลุ่มไวรัสที่เกิดกับระบบทางเดินหายใจนั้นเจริญเติบโตได้ดีกว่าปกติ  ซึ่งเด็กอายุน้อยกว่า 5 ขวบ และผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องจะมีโอกาสเสี่ยงและมีอาการรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่น อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ คัดจมูก  มีน้ำมูกใส ๆ   จาม  คอแห้ง  เจ็บคอ ไอแห้ง  ไอมีเสมหะ เป็นไข้  อ่อนเพลีย  ปวดศีรษะ หากอาการรุนแรงอาจมีโรคแทรกซ้อนที่มากับไข้หวัด คือ ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ  หรือ ปอดอักเสบได้ การป้องกัน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ควรฉีดประมาณ 1-2 เดือนก่อนฤดูกาลระบาดของโรคทุกๆ ปี และสามารถฉีดได

โรคเบาหวานมีกี่ประเภท ?

รูปภาพ
โรคเบาหวาน หลาย ๆ คนมักเข้าใจว่าโรคเบาหวานนั้นมีเพียง 2 ชนิด แต่ตอนนี้คณะนักวิจัยจากสวีเดนและฟินแลนด์พบว่า โรคเบาหวานซึ่งคนจำนวนมากเป็นกันอยู่นั้น ไม่ได้มีเพียง 2 ชนิดตามที่เคยเข้าใจกันมา แต่สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มอาการย่อยที่แตกต่างกันไปได้อีก ทำให้โรคเบาหวานในปัจจุบันมีถึง 5 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดจะมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน คณะนักวิจัยจากศูนย์โรคเบาหวานมหาวิทยาลัยลุนด์ของสวีเดน และสถาบันเพื่อการแพทย์ระดับโมเลกุลของฟินแลนด์ ได้วิเคราะห์ตัวอย่างเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน 14,775 คนในแถบสแกนดิเนเวีย และพบว่าสามารถแบ่งกลุ่มผู้ป่วยตามอาการที่เป็นอยู่รวมทั้งลักษณะทางเคมีในเลือดได้อย่างน้อย 5 กลุ่ม ซึ่งมีความซับซ้อนกว่าการแบ่งผู้ป่วยโรคเบาหวานออกเป็นชนิดที่ 1 ซึ่งแพ้ภูมิคุ้มกันตนเอง และชนิดที่ 2 ซึ่งเป็นเบาหวานเพราะความอ้วน แบบที่ทำกันมาแต่เดิมอย่างมาก และ มีการตีพิมพ์ผลการศึกษาดังกล่าวในวารสารการแพทย์ Lancet Diabetes and Endocrinology โดยระบุถึง โรคเบาหวาน 5 ชนิดไว้ดังนี้ ชนิดที่ 1  เป็นโรคเบาหวานที่เกิดจากการแพ้ภูมิคุ้มกันในร่างกายตนเองอย่างรุนแรง ผู้ป่วยมักเริ่มมีอาการตั้งแต่อายุยัง

กูลโคสคืออะไร?

รูปภาพ
Glucose กลูโคสคืออะไร มีกี่ประเภท กลูโคส ( glucose ) หรือเด็กซ์โทส ( dextrose ) เป็นน้ำตาลพื้นฐานของคาร์โบไฮเดรต และยังเป็นสารตั้งต้นของการผลิตพลังงานที่ใช้ภายในร่างกาย มีลักษณะเป็นของแข็งสีขาว พบมากในผลไม้ที่มีรสหวานอย่างเช่นองุ่น ( grape sugar ) หรือน้ำผึ้ง และเป็นน้ำตาลที่พบในเลือดอีกด้วย หรือที่เรียกกันว่าบลัดชูการ์ ( blood sugar ) ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรีต่อกรัม จุดประสงค์ของการกินกลูโคส กลูโคสเป็นน้ำตาลชนิดที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้เร็วที่สุด ทำให้มีน้ำตาลเพิ่มในเลือดค่อนข้างเร็ว จึงเหมาะกับผู้ที่มีอาการอ่อนเพลียจากการออกกำลังหรือผู้ที่กำลังเป็นไข้ พลังงานที่ได้รับจะช่วยให้ร่างกายมีแรงฟื้นตัวขึ้นมาเร็ว ด้วยการกระตุ้นอินซูลินให้มีการดูดซึมโปรตีนเข้าสู่กล้ามเนื้อ ส่งผลให้เราไม่รู้สึกเหนื่อยหรือเพลียมากนัก กลูโคสจะให้ความหวานที่ต่ำกว่าน้ำตาลทรายทั่วไป หากต้องการให้ได้รับความหวานเท่ากับน้ำตาลทราย จะต้องเพิ่มปริมาณกลูโคสมากขึ้น จึงจะให้ความหวานที่สามารถเทียบเท่ากันได้ ประกอบกับการเป็นน้ำตาลที่ร่างกายดูดซึมได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่

แก้อาการปวดหลัง - นั่งนานๆแล้วปวดหลัง

รูปภาพ
ออฟฟิศซินโดรม กายภาพบำบัดมีบทบาทสำคัญในการรักษากลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรมที่เกี่ยวข้องกับระบบกล้ามเนื้อและกระดูกตั้งแต่ระยะเริ่มแรกจนถึงกรณีที่มีอาการมากจนรบกวนชีวิตประจำวันหรือก่อให้เกิดความบกพร่องทางการเคลื่อนไหว เพื่อฟื้นฟูให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ  นักกายภาพบำบัดยังมีหน้าที่ในการเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยกลับมามีอาการเหล่านี้อีก โดยนักกายภาพบำบัดจะประเมินโครงสร้างร่างกายพร้อมปรับแก้โครงสร้างร่างกายให้เกิดความสมดุลและปกติ รวมถึงให้คำแนะนำในการปรับเปลี่ยนท่าทางระหว่างการทำงาน การปรับสภาพแวดล้อมของเครื่องมือและสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานให้เหมาะสมในแต่ละบุคคล แนะนำการยืดกล้ามเนื้อเพื่อผ่อนคลายในระหว่างการทำงาน รวมทั้งส่งเสริมให้มีการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง พร้อมรับสภาวะการทำงานที่อาจไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงของโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับออฟฟิศซินโดรมด้วย สาเหตุของการเกิดออฟฟิศซินโดรม  การนั่งหน้าคอมพิวเตอร์หรือทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยท่าทางซ้ำๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานานมากกว่า 6 ชั่วโม

Active Recovery คืออะไร?

รูปภาพ
Active Recovery คืออะไร ต่างกับการพัก (Rest) อย่างไร การทำ แอคทีฟ รีโคเวอรี่ จะต่างจากการพักผ่อนร่างกายที่ไม่มีการประกอบกิจกรรมเสียเหงื่ออะไรเลย โดยจะเป็นการออกกำลังกายเบาๆ มาก (An easier workout) มีความเข้มข้นน้อยและกินเวลาไม่นาน อย่างเช่น การเดิน Brisk walk ในช่วงวันเว้นการฝึก (ช่วง Day off หรือมองให้ชัดยิ่งขึ้น สำหรับนักวิ่งที่ฝึกฝนเพื่อไปมาราธอน การทำ แอคทีฟ รีโคเวอรี่ อาจจะเป็นการเดินเร็วหรือจ๊อกกิ้งช้าๆ ประโยชน์ของการทำ Active recovery มีอะไรบ้าง การทำ แอคทีฟ รีโคเวอรี่ จะช่วยกระตุ้นระบบเมตาบอลิซึมให้เร่งการฟื้นฟูร่างกายให้เร็วขึ้น ช่วยลดความตรึงเครียดของจิตใจและกล้ามเนื้อ ให้เลือดได้ไหลเวียนนำของเสียและอาหารมาเลี้ยงเซลล์ การฝึกเบาๆ จะช่วยเบริ์นไขมันเพิ่มขึ้นอีกนิดในวันพักสบายๆ และนักวิ่งทั่วไปใช้ทดสอบร่างกายหลังจากพักผ่อนร่างกายจากมาราธอนมาหลายวัน เพื่อดูว่าร่างกายกลับมาสู่สภาพพร้อมที่จะกลับสู่แผนการฝึกต่อไปหรือไม่ 5 วิธี แนะนำ 1. เดิน การเดินเป็นการทำแอคทีฟ รีโคเวอรี่ ที่ง่ายที่สุดและเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บน้อย ช่วยเบริ์นแคลอรี่และลดอาการเครียดของจิตใจได้ดี ปริมาณการเ

วิธีควบคุมอาหารหลังออกกำลังกาย

รูปภาพ
how to stop overeating after a workout หลายคนคิดเข้าข้างตัวเองเสมอว่า การออกกำลังกายที่ผ่านมาได้เผาผลาญพลังงานไปเยอะแล้ว ยังมีห้องว่างให้ร่างกายรับแคลอรี่ได้อีก กินไปเถอะเดียวก็วิ่งเอาออกได้….ทำให้เรามักจะรับประทานอาหารหลังการออกกำลังกาย (รับแคลอรี่) มากกว่าจำนวนที่เราต้องใช้ในการเสริมสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อต่างๆ จำนวนของเหลือก็กลายเป็นไขมันสะสมทั่วร่างกาย ที่เห็นชัดที่สุดก็คงเป็นเจ้าห่วงยางรอบเอวที่น่ารัก เรามาดู 5 วิธีเตือนสติตัวเอง ในการควบคุมความหิวหลังการวิ่งกัน 1. ศึกษาแคลอรี่ในอาหารให้ดี  ดูจำนวนแคลอรี่ให้ดี ในโปรแกรมแอพออกกำลังกายต่างๆ จะมีค่าประมาณแคลอรี่ที่ใช้ไป เมื่อจบการวิ่งแล้ว เราจะได้ค่าประมาณจำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญไป เช่น วิ่ง 10K จะใช้พลังงานที่ 700-1000 kcal  ทั้งนี้ค่าแคลอรี่ที่ใช้ไปจะขึ้นอยู่กับเพศ อายุ ลักษณะร่างกาย และแต่ละคนก็มีความแตกต่างกันไป เมื่อดูจำนวนแคลอรี่ที่ใช้ไปแล้วก็ต้องรู้จักนำมาเปรียบเทียบกับจำนวนแคลอรี่ที่อาหารแต่ละมื้อให้กับเราด้วย เพราะอาหารแต่ละประเภทมีจำนวนแคลอรี่ต่างกัน อย่างเช่น ข้าวขาหมูให้พลังงาน 690 kcal ข้าวไข่เจียว 445 kcal และ

หลักการกินอาหารที่ดี ด้วยกฎ 80/20

รูปภาพ
หลายคนคงเคยได้ยินกฎการกินสู่หนทางรูปร่างที่ดีอย่างกฏ 80/20 มาบ้างแล้ว ที่บอกไว้ว่า 80% สำหรับการกินแบบเคร่งครัด ส่วน 20 % ที่เหลือนั้นสำหรับตามใจตัวเอง ซึ่งเป็นกฎง่ายๆ แต่ยังมีหลายคนที่ยังมีความเข้าใจผิดๆ และยังใช้กฎนี้อย่างไม่ถูกต้อง โพสนี้เราขอหยิบยกเอาเรื่องกฎ 80/20 มาขยายความใหม่ เพราะกฎนี้ไม่ใช่หนทางสู่รูปร่างที่ดีเพียงเท่านั้น แต่ยังถือเป็นไลฟ์สไตล์สำหรับทุกคนที่อยากรูปร่างดีไปพร้อมสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนด้วย ในคนที่ดูแลเรื่องรูปร่างของตัวเองหลายคนที่ใช้วิธีการจำกัดอาหารแบบไม่ถูกต้อง การนำเอากฎ 80/20 มาปรับใช้นั้นเป็นทางออกที่ดีสำหรับดูแลรูปร่างอย่างสมดุลและมีความพอดี เพราะกฎนี้จะทำให้คุณสนุกกับการรับประทานอาหารแบบไม่กดดันตัวเอง แถมยังมีที่ว่างให้ได้ชิมของอร่อยกับเพื่อนๆ ได้อีกด้วย 80% แรกคือการโฟกัสไปที่การรับประทานอาหารคลีน ส่วน 20% ที่เหลือคือการรับประทานตามใจล้วนๆ อย่ากังวลกับเรื่องตัวเลข ลองดูตัวอย่างที่เข้าใจง่ายๆ เช่น หากคุณรับประทานอาหารวันละ 3 มื้อ ในหนึ่งสัปดาห์ ให้ 3 มื้อ 1 วันของคุณเป็น cheat meals ที่คุณจะได้อิ่มอร่อยกับของที่ชอบ แต่หากคุณรับประทานมื้อเล็กๆ 5 มื

น้ำผึ้งผสมมะนาวกับ 7 สรรพคุณเด็ด

รูปภาพ
Honey lemon drink น้ำผึ้งผสมมะนาว เครื่องดื่มที่ทุกคนรู้กันดีว่าสามารถแก้เจ็บคอได้ และนักร้องที่ต้องการความมั่นใจก่อนการขึ้นแสดงก็มักจะเลือกน้ำผึ้งผสมมะนาวอุ่น ๆ แต่ก่อนที่เราจะเชื่อไปตาม ๆ กัน Healthy is a Trend อยากให้ทุกคนได้รู้ถึงสรรพคุณ และข้อเท็จจริง ของเจ้าน้ำผึ้งผสมมะนาวนี่กันก่อน 1. แก้ไอ ในน้ำมะนาวมีวิตามินซีและ กรดซิตริกอยู่มาก ซึ่งกรดซิกตริกมีฤทธิ์สามารถช่วยลดไข้  บรรเทาอาการกระหายน้ำ และช่วยให้ลำคอชุ่มชื้น และเมื่อมาอยู่ในรูปแบบน้ำผึ้งผสมมะนาวด้วยแล้ว ก็สามารถแก้อาการไอได้ไม่ยากเลย เพราะในน้ำผึ้งก็มีฤทธิ์คล้ายยาปฏิชีวนะช่วยกำจัดเชื้อไวรัสที่ทำให้เราไอ 2. แก้เจ็บคอ ใครมีอาการเจ็บคอแน่นอนต้องใช้ตัวช่วยอย่าง น้ำผึ้งผสมมะนาวอุ่น ๆ สักแก้วแล้วฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสของน้ำผึ้ง และกรดซิตริกของน้ำมะนาวจะทำให้คุณหายเจ็บคอแน่นอน 3.ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร น้ำมะนาวมีสรรพคุณช่วยแก้อาการท้องอืด  ท้องเฟ้อ และน้ำผึ้งมีส่วนประกอบจากโพรไบโอติกช่วยปรับสมดุลการทำงานของลำไส้ และด้วยความที่มีฤทธิ์เป็นยาปฏิชีวนะชนิดเบา น้ำผึ้งจึงช่วยจำจัดแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาห

โทษของการดื่มกาแฟ

รูปภาพ
Disadvantages of Coffee ในร้านกาแฟมีการโปรโมทสรรพคุณของกับกาแฟไว้มากมาย ซึ่งคงไม่มีร้านกาแฟร้านไหนนำเสนอถึงโทษของกาแฟ ถึงแม้จะมีวีธีที่ดื่มกาแฟให้มีประโยชน์ที่สุด และโทษน้อยที่สุด แต่ก็ยังมีโทษของกาแฟอยู่วันนี้เราจึงมาบอกเล่าถึงกับโทษของการดื่มกาแฟที่ความนิยมอยู่ทั่วโลกกัน หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ เต้นไม่เป็นจังหวะ เนื่องจากกาเฟอีนมีฤทธิ์กระตุ้นกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น นานถึง 12 ชั่วโมง คนที่มีภาวะเครียด ร่างกายจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอีก นอนไม่หลับ เพราะคาเฟอีนปริมาณหนึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ทำให้นอนหลับยาก หลับไม่สนิท ร่างกายไม่สามารถพักผ่อนได้เต็มที่ เร่งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร กาเฟอีนมีฤทธิ์ไปกระตุ้นการหลั่งกรดเพปซิน (pepsin) และแกสตริน (gastrin) อาจทำให้โรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้รุนแรงขึ้นได้ มีสารเสพติด ผู้ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ หากหยุดดื่มกะทันหันจะทำให้มีอาการปวดศีรษะ กระสับกระส่าย ร่างกายอ่อนเพลีย และง่วงนอน เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุน  เนื่องจากกาแฟมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ โดยไปลดการดูดกลับของโซเด

10 ประโยชน์จากชา ที่ทุกคนต้องรู้

รูปภาพ
Tea ชาคือเครื่องดืมที่มีความนิยมทั่วโลก และมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 4,700 ปี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเรื่องความหอม และรสชาติ ที่แตกต่างกันในแต่ล่ะพื้นที่ นอกจากรสชาติ และความหอมแล้วยังมีสรรพคุณอีกมากมายทั่งดับกระหาย แก้ง่วงแล้วยังสามารถรักษาโรคได้สารพัดโรคซึ่งการดื่มชาถ้าจะให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพเป็นแบบไหน 1. การดื่มชาจะช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น เพราะในใบชามีสารโพลีฟีนอล กรดอะมิโน และคาร์โบไฮเดรต เมื่อสารเหล่านี้ทำปฏิกิริยากับน้ำลายจะช่วยกระจายความร้อนส่วนเกินในร่างกายได้ 2. ชาเป็นเครื่องดื่มที่มีธาตุอาหารอยู่หลากหลายชนิด ช่วยบำรุงร่างกายให้มีสุขภาพดี และช่วยกระตุ้นระบบประสาทและร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในใบชามีสารคาเฟอีนที่ช่วยกระตุ้นระบบประสาท ทำให้ช่วยหมุนเวียนโลหิต 3. ชามีอิทธิพลต่อกระบวนการเมตาบอลิซึม  ซึ่งมีการใช้ชาผสมกับยาแก้ปวด เพื่อช่วยเพิ่มฤทธิ์ในการรักษาโรคไมเกรน และทำให้ยาออกฤทธิ์ได้นานยิ่งขึ้น 4. ดื่มชาเป็นประจำ จะทำให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง และสดชื่น ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย ที่สำคัญคือช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความชราและมีส่วนช่วยบำรุง

10 ประโยชน์จากช็อกโกแลต

รูปภาพ
Chocolate การทำช็อกโกแลตนั้น ต้องผ่านกระบวนการหมัก คั่ว และบดอย่างละเอียดจากเมล็ดโกโก้ก่อนจะกลายมาเป็นช็อกโกแลต เป็นขนมที่มีรสชาติหวานถูกปากผู้คนทุกเพศทุกวัย และได้มีการนำช็อกโกแลตไปปรุงแต่งเป็นขนมหวานชนิดอื่น ๆ มากมาย เช่น ขนมเค้ก ไอศครีม และเครื่องดื่มช็อกโกแลตหรือโกโก้ มีสารสำคัญคือ สารอัลคาลอยด์ ซึ่งมีประโยชน์มากกว่าที่เราคิด และยังมีสารอื่นๆ อีกมากมาย ที่ช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย และนี้คือ 10 ประโยชน์ที่ได้จากช็อกโกแลต มีสารต้านอนุมูลอิสระ  ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพในผงโกโก้นั้นมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ซึ่งเป็นสารที่ต่อต้านอนุมูลอิสระชนิดเดียวกันกับที่มีในไวน์แดง แต่มีประโยชน์มากกว่า จึงสามารถช่วยป้องกันโรคได้อย่างหลากหลาย ช่วยกระตุ้นประสาท ทำให้กล้ามเนื้อเรียบคลายตัว แก้หอบหืด โกโก้สามารถช่วยบรรเทาสภาวะของโรคเครียดและโรคซึมเศร้าได้ มีหลายหน่วยงานออกมายืนยันว่าการรับประทานโกโก้ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มหรือช็อกโกแลต สามารถช่วยลดความเครียดได้จริง ซึ่งจะทำให้รู้สึกอารมณ์ดีและผ่อนคลาย ช่วยลดระดับไขมันในเลือด โกโก้นั้นมีการทดสอบมาแล้วจากหลายๆ โรงพยาบาลว่าสามา